บางค่ายเกมก็ประสบความสำเร็จ จากการผลิตผลงานออกมาตั้งแต่ครั้งแรก จนกระทั่งต้องมีการทำภาคต่อออกมาถึง 6 – 7 ภาค ตามเสียงเรียกร้องของแฟนเกม แต่ว่าก็ยังมีบางเกมที่ไม่ประสบความสำเร็จในภาคแรก แต่ก็มีการแก้ไขต่อในภาค 2 ซึ่ง The Crew 2 ก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน เนื่องด้วยในภาคแรกอาจจะยังไม่ค่อยมีประสบการณ์ หรือว่าการใส่ไอเดียลงไปในเกมยังน้อยอยู่ จึงทำให้ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร เดี๋ยวเราจะมาดูกันว่าภาคนี้จะสามารถแก้ตัวให้กับความผิดพลาดในภาคแรกได้หรือไม่
ระบบเนื้อเรื่อง
The Crew 2 เป็นเรื่องของการแข่งรถ Rally จากผู้คนทั่วสารทิศในประเทศอเมริกา ซึ่งเราก็เป็นหนึ่งในนักแข่ง ที่มาเข้าร่วมงานนี้ด้วยเช่นกัน แต่ว่าความแตกต่างของเกมนี้ คือ เราสามารถใช้พาหนะอะไรก็ได้ในการลงสนาม ไม่ได้จำกัดแต่ว่าต้องใช้รถยนต์เท่านั้น เราอาจจะใช้เรือ หรือเครื่องบินก็ได้ โดยสามารถสลับการใช้เครื่องยนต์ได้ตลอดเวลา แถมสนามแข่งก็ยังมีหลายรูปแบบให้เลือกลง ทั้งในป่า, ริมหาด หรือจะลงแข่งบนถนนธรรมดาก็ยังได้ เรียกว่าให้อิสระในการเลือกแบบสุด ๆ
ระบบ Gameplay
การทำภารกิจหลักในเกม The Crew 2 ไม่น่าเดายาก เพราะว่าเกมแข่งรถก็ต้องทำการแข่งรถเป็นหลักอยู่แล้ว และก็ต้องคว้าอันดับหนึ่งมาเป็นของเราให้ได้ เมื่อเกมจบเราจะได้รับยอดผู้ติดตามจากการถ่ายทอดสดเป็นรางวัล ถ้าสะสมยอดผู้ติดตามได้เท่าที่ตัวเกมกำหนด ก็จะสามารถปลดล็อกสนาม และยานพาหนะชนิดใหม่ได้ แต่ถ้าได้อันดับรองก็จะได้รับกล่องสุ่มกาชา ซึ่งในนั้นก็มี Item อยู่หลายระดับ ขึ้นอยู่กับความยากของสนามที่ลงแข่ง ส่วนเงินในเกมก็สามารถซื้ออุปกรณ์มาแต่งรถได้ตามกำลังที่มี และด้วยตัวเกมแอบมีความเป็น Open World ดังนั้น การไปไหนต่อไหนจึงเป็นเรื่องที่ทำได้อย่างสบาย
การออกแบบภาพกราฟิก และองค์ประกอบอื่น ๆ
ในเกม The Crew 2 มีการนำฉากในเมืองใหญ่ พร้อมทั้งจุด Landmark มาเป็นจุดขาย แถมยังมีการเก็บรายละเอียดได้ครบ มันจึงทำให้องค์ประกอบทุกอย่างดูสวยงาม ลงตัวไปหมด ส่วนการควบคุมยานพาหนะก็ใส่ใจรายละเอียดดี เพราะว่าการบังคับจะแตกต่างกัน
The Crew 2 เป็นเกมแข่งรถที่สนุกเกมหนึ่ง เนื่องจากมีรูปแบบการเล่นที่เข้าใจง่าย ภาพสวย ใครที่ชอบเกมแนวนี้อยู่แล้ว ก็อยากให้มาลองเล่นกันดู แต่ก็มีข้อเสียนิดหน่อยตรงที่ไม่ใช่ Bug แต่เป็นข้อเสียตรงที่ต้องเชื่อมต่อกับ Internet โดยที่ไม่สามารถเล่นแบบ Offline ได้
แหล่งอ้างอิง : https://gamingroom.co/review-the-crew-2/
